การทำนำรถยนต์ข้ามไปยังประเทศลาว ฝั่งจังหวัดหนองคาย - นครหลวงเวียงจันทน์

ขั้นตอนการทำเอกสารข้ามไปยังประเทศลาว ไม่ยากอย่างที่คิด ทำเป็นครั้งแรกก็ไม่ต้องกลัวแบบว่าชิว ชิว
ก่อนอื่นเราต้องเตรียมเอกสารจากฝั่งไทยให้เรียบร้อยก่อน ต้องเริ่มต้นจากรายลเอียดที่เราจะแจ้งเป็นไปตามนี้
1. รถต้องไม่ติดไฟแนนซ์ แบบว่าไม่มีหนี้มีหรือมีเล่มอยู่ที่เราก็ทำได้ อาจจะขอจากไฟแนนซ์ก็ได้ แต่ยากหน่อยนะ เอาเป็นว่ารถไม่มีหนี้ดีกว่า
2. ไปขนส่งทุกที่ใกล้บ้านท่านได้ หรือ ไปขนส่งจังหวัดดีที่สุดเพราะจะมีตัว T และเอกสารพร้อมสามารถทำเสร็จภายในวันเดียว
3. ให้ไปติดต่อที่ฝ่ายทะเบียนรถยนต์ ทำการเขียนใบคำร้องขอนำยานพาหนะออกนอกราชอาณาจักร (กรอกง่ายมากไม่ยาก) เอกสารมีแค่แผ่นเดียว
4. จากนั้นรอฝ่ายทะเบียนเรียก ให้นำรถยนต์ไปตรวจสภาพ ที่ภายในขนส่งที่นำรถยนต์ไปทำเรื่องขอคำร้องพาสปอร์ตนั่นแหละ
5. จากนั้นก็รอตรวจสภาพรถยนต์เสร็จ แล้วนำเอกสารที่ทางตรวจสภาพรถยนต์เซ็นรับรองมาไปยื่นที่ฝ่ายทะเบียนอีกครั้ง
6. เมื่อยื่นเอกสารที่ฝ่ายทะเบียนแล้วก็ทำการนั่งรอ (จริง ๆ แล้ว ทำไม่นานหรอก แต่ถ้าคนรอเยอะอาจะเสียเวลาหน่อย) เมื่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนเรียกก็จะได้รับ
6.1พาสปอร์ตรถ
6.2 สติกเกอร์ ตัว T
6.3 ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
6.4 ทะเบียนรถที่แปลเป็นทะเบียนสากลเป็นกระดาษ A4 แต่ถ้าหากใครอยากได้ป้ายทะเบียนรถยนต์ตัวจริง ต้องทำเรื่องขอ 5 บาท มัดจำป้ายอีก 200 บาท แต่ว่า 4 เดือน ค่อยมาติดต่อรับป้าย
รวมค่าใช้จ่ายการขอพาสปอร์ตรถประมาณไม่เกิน 200 บาท บวกกับทำเรื่องขอทะเบียนตัวจริง 205 บาท ก็ไม่น่าจะเกิน 400 บาท

การยื่นเรื่องนำรถยนต์ออกจากราชอาณาจักรไทย เมื่อมาถึงยังด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทย แนะนำว่าให้ทำเรื่องตั้งแต่ช่วงเวลาเช้า ๆ ตรู่ยิ่งดี เพราะคนยังมาทำเรื่องข้ามด่านน้อยอยู่ ซักเวลาประมาณ 06.30 น. เลยก็ได้
รายการเกี่ยวกับพาหนะ	บัญชีคนประจำพาหนะ
หนังสือขออนุญาตนำยานพาหนะออกต่างประเทศ
1. ไปขอแบบฟอร์มการขอนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรไทย จะมีแบบฟอร์มกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับพาหนะ 1 ใบ แบบฟอร์มสำหรับผู้ติดตามด้วย (บัญชีคนประจำพาหนะ) (ต้องใช้พาสปอร์ตรถตัวจริง และเอกสารผู้ครอบครองรถประกอบด้วย ที่สำคัญใบขับขี่ที่เป็นสมาร์ทการ์ดสามารถใช้ได้ในกลุ่มประเทศอาเซียนครับ) 2. จากนั้นก็ยื่นที่ตู้ได้เลย หากเป็นรถยนต์ที่นำเข้าครั้งแรก ก็ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลใหม่ ไม่เกิน 10 นาที (ปกติไม่เสียตังในเวลาทำการ แต่อาจมีค่าล่วงเวลา 40 บาทในการทำการนอกเหนือเวลาทำการ) และก็จะได้หนังสือขออนุญาตนำพาหนะออกต่างประเทศ (อย่าทำหายมิฉะนั้นจะยุ่งยากลำบาก เวลาจะกลับเข้าไทยจะไปออกด่านอื่นลำบากมาก)
ค่าธรรมเนียมผ่านททางด่านสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว
3. เมื่อนำรถข้ามสะพานมิตรภาพ ไทยลาว จะต้องเสียค่าธรรมเนียม รถเก๋ง 20 บาท รถกะบะ 4 ล้อ 30 บาท
เมื่อมาถึงฝั่งตรวจคนเข้าเมือง สปป.ลาวแล้ว ขั้นตอนไม่ยาก แต่อาจจะต้องเสียเวลานิดหน่อยอันตรงเอารถเข้ามาครั้งแรก 1. ข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาว ฝั่งหนองคายเวียงจันทน์แล้ว ก็ต้องเสียค่าพ่นน้ำยา 5,000 กีบ
ด่านตรวจคนเข้ามืองนครหลวงเวียงจันทน์
ค่าพ่น้ำยา
2. จากนั้นก็ขับรถไปรอที่หน้าตู้ขอเอกสารนำรถเข้าประเทศลาว โดยมีแบบฟอร์มของการกรอกขออนุญาตนำรถเข้ามาใน สปป.ลาว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับพาหนะที่นำเข้ามา โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ ไม่น่าเกิน 200 บาท อันนี้สามารถทำเข้าให้อยู่ในประเทศลาวได้เลยไม่เกิน 1 เดือน (กรณีที่เป็นรถคันแรก ทางเจ้าหน้าที่จะต้องให้เข้าไปคุยกับทางหัวหน้าที่ควบคุมการนำรถเข้าออก ว่าเหตุใดถึงได้นำรถเข้ามาครั้งแรก ไม่ต้องเสียเงินครับผมบอกกับเขาไปว่า มาเป็นประจำแต่รถคันที่ใช้ประจำเกิดอุบัติเหตุ และที่สำคัญต้องเข้ามาหาเมียในลาวด้วย ผ่านฉลุย) 3. จากนั้นเราจะได้รับใบสีเขียว ๆ เป็นใบเสียภาษีในการนำยานพานะเข้าไปในประเทศลาว เก็บไว้ให้ดีอย่าให้หายมิฉะนั้นจะออกประเทศลาวลำบาก
ใบแจ้งภาษีสำหรับพาหนะนำเข้าท่องเที่ยว
ใบค่าล่วงเวลา
ค่าผ่านด่านเข้าเมือง
4. จากนั้นก็หาที่จอดรถยนต์ เพื่อทำซื้อประกันในประเทศลาว ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาขายอยู่ทางหน้าด่านประมาณ 3 บริษัท แต่จะเริ่มเปิดขายประกันประมาณเวลา 08.30 น. ค่ากันครั้งหนึ่งอยู่ที่ระยะเวลาในการเดินทางว่าจะเข้าไปกี่วัน ผมเข้าไป 5 วัน ราคาอยู่ที่ 210 บาท จากนั้นก็เที่ยวลาวได้อย่างสบายใจ ไปออกด่านไหนก็ได้ที่เป็นด่านสากล เข้าไปแล้วก็ไปหาของกินอร่อย ๆ ด้วยนะ อันแน่ออนทัวร์ก็ขอแนะนำร้านอาหารปิ้งแบ้ ผลไม้จิ้มแจ่วปลาร้า และถ้าไปเรียบโขงก็อย่าลืมไปชิมส้มปลาโด ด้วยหละแล้วจะหาว่าอันแน่ออนทัวร์ไม่บอก
ค่าประกันภัยในลาว