เที่ยวทวาย ก่อนทวายจะเปลี่ยนไป dawei original tour หน้า 2

ตี 4 ลุงแกมารอผมก่อนเวลา เขาถามผมว่าจะไปดูอะไรผมบอกไปดูตลาดที่เขาจับปลามาขาย ซึ่งตอนแรกเขาก็คิดว่าน่าจะเป็นตลาดสดในทวาย ผมก็เลยเห็นเขาเอาปลามาขายกันเยอะแยะไปหมดได้บรรยากาศของตลาดพม่าอีกแบบหนึ่งก็ดีเหมือนกัน
  




แต่เท่าที่ผมรู้โจบอกจะมีตลาดริมทะเลแถวมอมะกันแต่มันจะเลยไปอีก ผมเลยบอกให้เขาพาไป แต่ว่าหลงวิ่งไปจนถึงวัดเมียวยิทเลย ตอนแรกเขาบอกเคยมา แต่วิ่งมาจนจะสุดหาดที่วัดเมียวยิทเลยต้องแวะถามทางคนแถวหมู่บ้านชาวประมงแถวนั้นก่อน จนถึงรู้ว่าเลยมาแล้ว ผมรู้ว่าเขาหลงก็เริ่มชักไม่มั่นใจแล้วอะ แต่ทำไงได้ครับถ้าผมมาคนเดียวคงไม่รู้จักสถานที่ แม้แต่เดินไปคนเดียวยังเสียวเลย เพราะมันค่อนข้างไกลจากในเมือง งั้นขอแวะวัดเมียวยิทก่อนเลยแล้วค่อยย้อนกลับไปทางเดิม





แต่เท่าที่ผมรู้โจบอกจะมีตลาดริมทะเลแถวมอมะกันแต่มันจะเลยไปอีก ผมเลยบอกให้เขาพาไป แต่ว่าหลงวิ่งไปจนถึงวัดเมียวยิทเลย ตอนแรกเขาบอกเคยมา แต่วิ่งมาจนจะสุดหาดที่วัดเมียวยิทเลยต้องแวะถามทางคนแถวหมู่บ้านชาวประมงแถวนั้นก่อน จนถึงรู้ว่าเลยมาแล้ว ผมรู้ว่าเขาหลงก็เริ่มชักไม่มั่นใจแล้วอะ แต่ทำไงได้ครับถ้าผมมาคนเดียวคงไม่รู้จักสถานที่ แม้แต่เดินไปคนเดียวยังเสียวเลย เพราะมันค่อนข้างไกลจากในเมือง งั้นขอแวะวัดเมียวยิทก่อนเลยแล้วค่อยย้อนกลับไปทางเดิม
 
 











เดิมชมวัดเมียวยิทตอนเช้า ก็ได้บรรยากาศแต่พระออกไปบิณฑบาตรกันหมดแล้ว ส่วนวัดก็ยังไม่เปิดน่าจะเปิดประมาณ 8 โมงเช้า ผมเดินไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดเมียวยิทซักพักก็เริ่มเดินทางไปตลาดปลาสดริมทะเล ซึ่งเขาบอกว่าตลาดจะวายในช่วงเวลา 07.30 น. พี่มอเตอร์ไซค์ใช้เวลาเดินทางจากวัดเมียวยิทไปถึงตลาดปลาริมทะบ้านโบชิก ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ทำให้ความกังวลทุกอย่างผมหายไปในทันที เพราะเท่าที่ผมเห็นเป็นตลาดชาวบ้านแบบติดทะเล ของส่วนใหญ่ที่นำมาขายจะแบกับดิน มีขนมพื้นบ้าน อาหาร ผัก เสื้อผ้า ดอกไม้ เอามาขายริมทางท้าวสองข้างบทางส่วนคนพม่าก็คึกคักเต็มไปหมด แต่ที่เห็นทั้งหมดนี้ก็ยังไม่เท่ากับการได้เห็นการเอาปลาสด ๆ มาขายริมทะเลบนพื้นทรายแบบไม่ต้องมีอะไรมาวางรองพื้นเลย ส่วนใหญ่จะซื้อก็มาเลือกปลาจากกองที่เขาเอาลงมาจากเรือ มีปลามากมายให้เลือกไม่ว่าจะเป็นปลาทู ปลาฉลาม ปลาแดง เยอะแยะมากมายดูแล้วไม่เบื่อเดินเล่นเดินกินขนมพม่า ดูวิถียามเช้าตลาดสดริมทะเลโบชิกจนพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้ามันรู้สึกได้ว่านี่แหละทวายเมืองในฝันที่ยังคงเดิมไว้แบบทวายจริง ๆ 
  
 
 
 
 





 













ผมเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตคนทวายริมทะเลได้เต็มอิ่มที่หมู่บ้านริมทะเลโบชิกแล้ว ก็ยังอยากจะไปเห็นท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย เพราะใครไปที่นี่เขาจะไปถ่ายภาหลักกิโลเมตร 0+000 ที่นี่ พี่มอเตอร์ไซค์ขับรถพาผมไปประมาณเป็นชั่วโมงเลย กว่าจะไปถึงกินฝุ่นจนเกือบอิ่ม ส่วนผมก็ไม่ต้องย้อมแดงไปหมด แต่พอไปเห็นท่าเรือน้ำลึกทวายก็หายเหนื่อยไปเลย เพราะทะเลที่นี่สวย มีเพียงผมและพี่มอเตอร์ไซค์ยืนอยู่กันสองคน ผมถ่ายภาพกับหลักกิโลเมตร 0+000 แล้วก็เตรียมตัวจะกลับไปเมืองทวาย 
 









 ระหว่างกำลัวจะกลับเมืองทวายตาก็หัวไปเห็นว่ามีมอเตอร์ไซค์สองคันกำลังวิ่งมาทางนี้ แต่เขาขับเลยไปอีกทางหนึ่งวิ่งเรียบหาดท่าเรือน้ำลึกขึ้นไปอีก โดยที่ผมเดาคาดการเขาน่าจะไปเที่ยวกัน ผมก็เลยให้พี่มอเตอร์ไซค์ขับตามไปดูว่าเขาไปไหนกัน โดยขับเรียบหาดไปอีกจนสุดหาดจนเห็นวัดที่อยู่บนยอดเขา และเราก็เดินทางขึ้นไปยังวัดนี้ทันที ระหว่างขึ้นไปบนวัดเป็นทางชันนิดหน่อย แต่เมื่อขึ้นไปถึงก็เห็นวิวทะเลอันดามันสวยสุดลูกหูลูกตา เห็นธรรมชาติริมทะเลทวาย และที่สะคัญวัดนี้ยังมีที่นั่งพักผ่อนริมทะเล มีร้านอาหารน้อย ๆ สำหรับให้ได้นั่งทานอาหาร และมีชายหาดติดริมเขาที่เป็นที่ตั้งของวัด พี่มอเตอร์ไซค์บอกว่าวัดนี้ชื่อวัดมะเยจี มีพระไทยเป็นเจ้าอาวาสด้วยตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ แต่เห็นภาษาไทยเขียนอยู่หน้ากุฏิหลวงพ่อแล้วก็ต้องเชื่อ เพราะมีรูปของหลวงพ่ออยู่ด้วย ส่วนวัดกำลังสร้างเจดีย์จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญในพม่า ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ
  








ผมลงไปเดินเล่นชายหาดบริเวณวัดมะเยจี เห็นร้านส้มตำแบบชาวบ้านร้านนี้ธรรมดามากมาก หลังคาร้านเอาผ้าผืนใหญ่ ๆ มาผูกกับต้นไม้ เพื่อกันแดด ส่วนโต๊ะอาหารใต้ร่มก็ตั้งอยู่ในร่มไม้ริมทะเล ผมเห็นแบบนี้ก็อดที่จะเข้าไปลองชิมรสชาติส้มตำพม่าซักกะหน่อยว่าจะมีรสชาติคล้ายประเทศไทยไหม ผมเลยไปยืนสังเกตุการณ์วิธีการตำส้มตำพม่าของสาวพม่าคนนี้ว่าจะมีวิธีการตำส้มตำ และเครื่องปรุงของส้มตำว่าคล้ายคลึงกับบ้านเราไหม จากสิ่งที่เห็นเขาใส่น้ำส้มสายชูเข้าไปด้วยแฮะ ส่วนรสชาติสู้บ้านเราไม่ได้หรอก หรืออาจจะเป็นเพราะเราคุ้นเคยรสชาติส้มตำบ้านเรามากกว่าก็เป็นได้ 
 






 


ผมนั่งพักกายทอดสายตาไปยังพื้นน้ำสีฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าให้ทั้งเย็นกายและเย็นใจ หยุดนิ่งความคิดเพื่อให้สมองได้พักผ่อนซักพักใหญ่ก็เดินทางเข้าเมืองทวาย เพราะทวายยังรอให้ผมค้นหาอยู่ พี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาผมเข้าไปเที่ยวตลาดสดทวายอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราเข้าไปช่วงบ่ายสิ่งที่แปลกไปจากเมื่อเช้าที่เห็น ๆ ร้านขายปลาสดก็จะเปลี่ยนเป็นเขียงหมู เขียงเนื้อ ส่วนตลาดที่ติดกันก็ยังมีร้านปลาแห้งหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงพืชผักผลไม้นานาชนิด ของครัว เครื่องใช้ หมากพลู ดอกไม้ และอื่น ๆ อีกมากมายส่วนตลาดจะวายตอนเย็น ๆ ประมาณ 5 โมงเย็น

 
 









ส่วนช่วงเย็นพี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาผมไปเที่ยววัดทีดัง ๆ ในทวาย โดยส่วนใหญ่คนไทยจะเข้ามาทำบุญวัดเหล่านี้ ผมก็ไม่ขัดศรัทธาเพราะผมอยากเข้ามาทำบุญวัดในทวายอยู่แล้ว ส่วนการเข้าไปในวัดเราต้องถอดรองเท้าก่อนทางขึ้นโบสถ์ อย่างเช่น วัดเชมูเต้ วัดนี้มีพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ รวมถึงวัดพระนอนขนาดใหญ่ที่คนไทยนิยมเข้ามาทำบุญ หรือบางวัดก็ต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ทางเข้าวัดได้แก่ วัดพระใหญ่เมืองทวาย ซึ่งแต่ละวัดมีความสวยงามและมีเจดีย์ขนาดใหญ่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัด
 
 
 
 














ส่วนเย็นนี้ผมพึ่งอาหารจากห้างสรรพสินค้าในทวาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่ผมพัก ในห้างสรรพสินค้าคล้ายคลึง กับร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่แบบบ้านเรามากกว่า ของไม่เยอะมากแต่ก็พอมีให้เลือกได้หลากหลาย สินค้าที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากประเทศไทย ผมพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสำหรับมื้อเย็นนี้ครับ
 


รุ่งเช้าผมนัดพี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาผมไปดื่มกาแฟในทวายตามร้านที่เขาขายโรตีโอ่งด้วย ภาษาพม่านันบายา เพราะผมเคยเห็นคนพม่าใช้กินกับกาแฟ และผมอยากเห็นวิธีการทำนันบายาแบบต้นตำหรับจากพม่า โดยเช้านี้ไม่ผิดหวังผมไปยืนดูเขาทำโรตีโอ่งแบบใกล้ชิด เขาใช้แป้งที่นวดไว้เป็นก้อนขนาดกำมือแล้วตีให้เป็นแผ่นกลม ๆ จากนั้นเอาไปโปะไว้กับบล็อกที่ทำมาจากผ้าเป็นทรงกลง แล้วโปะเข้าไปในเตาร้อน ๆ คล้ายกับโอ่งมีถ่านอยู่ข้างในพอสุกแล้วก็เอาออกมา ผมเลยได้กินกาแฟพร้อมกับคนพม่าหลาย ๆ คนเห็นวิถีชีวิตที่ไม่ค่อยเห็นซักเท่าไร อาทิ พระสงฆ์ในทวายก็สามารถมาดื่มกาแฟได้ในตอนเช้าพร้อมกับคนทั่วไปได้ นอกจากนี้ผมยังได้กินปลาท่องโก๋พม่าซึ่งมีขนาดใหญ่และยาวกว่าประเทศไทยบ้านเรา รวมทั้งสามุสาหะอาหารของพม่าที่ทำมาจากแป้งแล้วมีไส้ข้างในที่ต้องเอามาทอดเหมือนกัน
 
 
















หลังจากอิ่มกาแฟแล้ว พี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างบอกผมจะไปไหนอีกให้บอก เพราะพึ่งจะ 8 โมเช้า ซึ่งผมเองก็ยังไม่แน่ใจเขาบอกว่ามีเวลาให้ผมได้ถึง 11 โมง แต่ส่วนเรื่องค่ารถผมจ่ายไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว ซึ่งตอนไปกินกาแฟเขาก็จะเลี้ยงผมอีก คนพม่านี่ใจดีเหมือนกัน หรือเป็นเพราะว่าที่นี่เป็นเมืองพุทธศาสนากล่อมเกลาจิตใจคนให้เป็นคนดีซะมากกว่า เรื่องอาชญากรรม หรือโจรกรรมเลยไม่ค่อยมี แต่โชคดีของผมระหว่างนั่งรถจะกลับโรงแรมก็เห็นรถม้าในทวาย เลยอยากจะไปนั่ง พี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเลยต่อรองราคาให้ผมอยู่ที 500 จ๊าด (ไม่ถึง 20 บาท) นั่งกินลมในทวายก่อนเดินทางกลับแต่เขาจะไปส่งผมที่ทางเข้าบ้านโจก่อน เพราะผมต้องให้โจขับรถมารับที่โรงแรมโกเด้นท์เกสท์ลองมาดูบรรยากาศตอนที่ผมนั่งรถม้าทวายก็ได้มันคนละฟิวกับนั่งรถมอเตอร์ไซค์เลย
 





ทริปนี้ผมสนุกมากและรู้สึกประทับใจทวาย ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สถานที่ท่องเที่ยว ทะเล บรรยากาศริมทะเล วัฒนธรรม ประเพณี พระพุทธศาสนา แต่สิ่งที่ทวายยังไม่เปลี่ยนตอนที่ผมไปคือยังคงเป็นเมืองไม่สะอาด แต่อีกหน่อยก็ไม่แน่ถ้าถนนเสร็จ ท่าเรือน้ำลึกทวายเสร็จ ความเจริญเข้ามา ทวายจะเป็นเหมือนที่ผมเห็นแบบวันนี้หรือเปล่าหนอ เอาเป็นว่าถ้าทวายเปลี่ยนไปผมจะกลับมาหาทวายอีกครั้ง เพื่อดูความเปลี่ยนไปของทวายวันนั้นกับทวายวันนี้ ว่าทวายยังคงเป็นทวายอยู่หรือไม่ แล้วเจอกันอีกนะครับที่ทวาย
 

 รูปเล็กไปหน่อยแต่ข้อมูลแน่นดีครับ ขอบคุณมาก ผมเองก็มีเรื่อง เที่ยวพม่า เหมือนกันว่าง ๆ ไปเยี่ยมกันได้ครับ https://www.konderntang.com