หัวหิน แหล่งท่องเที่ยวชั้นยอดไม่ไกลจาก กรุงเทพ

หากพูดถึงหัวหินหลายคงคิดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามอันนี้ถูกต้องแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว หากคนที่ได้อยู่ในหัวหินจะรู้ว่านอกจากเลแล้วที่หัวหินยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย เที่ยว 3 วัน เต็ม ๆ ยังเที่ยวไม่หมดเลย ผมอันแน่ออนทัวร์ ไปฝังตัวที่หัวหินประมาณ 1 เดือน เลยอยากจะให้คนที่ได้มาเที่ยวหัวหินได้รู้จักหัวหินมากมากกว่ามานอนเล่นในรีสอร์ท หรืออยู่แต่ริมทะเล เอาแบบว่าเที่ยวได้ใจ พอเหนื่อยเล็กน้อยก็แล้วกัน ซัก 2 วัน หนึ่งคืนโดยเริ่มเที่ยวจุดแรกกันเลย ตั้งแต่ชะอำ บางคนสงสัยอยากจะถามว่าทำไมไปชะอำแล้วไม่เริ่มที่หัวหินหละ ขอบตอบเลยละกันว่าหัวหินกับชะอำติดกันเลยขนาดอยู่หัวหิน รีสอร์ท หรือร้านอาหารยังอยู่ในเขตชะอำเลย เอาเป็นว่าลองดูสเตปการเที่ยวที่ผมแนะนำละกันคร๊าบ

หากออกจากรุงเทพประมาณ 6 โมงเช้า ไปเรื่อย ๆ ชมบรรยากาศ เห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าคาตากันบ้างนะ จากนั้นก็ไปเริ่มกันที่เวลาประมาณซัก 9 โมงดีกว่า จากถนนเพชรเกษมติดกับปั๊ม ปตท. ฝั่งขาเข้าชะอำหรือก่อนเลี้ยวเข้าไปทางแยกชะอำ จะเห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงแรก ๆ ณ เวลานี้ ก์คือ Swiss sheep farm เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประมาณว่า ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวซะมากกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้วผมเห็นคนเข้าไปเลี้ยงแกะน้อยจัง และคนส่วนใหญ่เหล่านั้นก็เป็นเด็ก ๆ หนู ๆ น้อง ๆ ทั้งหลายอะ แต่ผู้ปกครองจะเดินเที่ยวมากกว่า เอ๊าะออถ้าเป็นหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็จะเน้นหนักไปกับการถ่ายรูปมากกว่าเพราะวิวสวย ๆ บวกกับการจัดสถานที่จัดพยายามให้คล้ายคลึงกับประเทศสวิสนั้น ก็ถือว่าดีนะ อย่างผมไม่เคยไปประเทศสวิสก็ยังแทบจะอินเลย เพียงแต่ติดที่ว่ามันร้อนมากถ้าแดดออก เดินชมกันไปเรื่อย ๆ ให้คุ้มค่าบัตรเข้าชมกันก่อน ดูโน่น ดูนี่ อะไรแปลกก็ถ่ายรูปไป จากนั้นก็ไปต่อกันได้เลย





วิ่งเข้าหาดชะอำ เลยดีกว่าไหมเพราะมีเวลาอยูตั้ง 2 วัน ถ้าเคยมาแล้วก็อย่าคิดมากลองดูอะไรเพลิน ๆ เหมือนผมอยู่กับทะเลเกือบทุกวัน เลยต้องขี่รถเที่ยวไปเรื่อย ๆ ผมแนะนำไปเที่ยวตลาดปูชักดีกว่า หากวิ่งเข้าหาดชะอำไปตามป้ายได้เลยไม่ยาก พบบริเวณริมหาดให้เลี้ยวซ้ายไปทางสะพานหิน วิ่งสุดทางจะมีร้านอาหารมากมายเลย ผ่านวัดเนรัญชราราม แต่เราไม่แวะวิ่งไปสุดทางให้เลี้ยวซ้ายอีกทีวิ่งไปสุดทางเลย ถ้าไปไม่ถูกถามว่าตลาดปูชักไปทางไหนเดี๋ยวเขาบอกเองไม่ไกลหรอก ที่นี่มีของทะเลสด ๆ มากมาย เพราะเป็นที่อยู่ของหมู่บ้านชาวประมงที่ชะอำ และเขาจะนำของทะเลมาขายกันที่ตลาดปูชักซึ่งอยู่ทางเข้าหมู่บ้านชาวประมง เป็นตลาดไม่ใหญ่แต่ของทะเลสด ๆ ทั้งนั้น แต่ผมเลือกจะไปดูเขาเลี้ยงปูชักยังไงแค่นั้นแหละ สรุปก็คือเอาปูใส่กระชังแล้วใช้เชือกผูกหย่อนกระชังที่มีปูลงไปในน้ำทะเล เวลาจะขายก็ดึงกระชังขึ้นมา ดีแฮะเลี้ยงปูแบบไม่เปลืองค่าอาหาร ใครอยากได้ของทะเลสด ๆ ก็ซื้อได้เลย ส่วนเรื่องราคาต่อรองกันเอาเอง นอกจากของทะเลสด ๆ แล้วยังมีบริการต้มให้เลย แล้วเอาน้ำจิ้มไปด้วย ไปนั่งกินริมทะเลได้เลย
 









จากนั้นก็ขับรถหาทำเลกันเอาเองอยากใคร่นั่งตรงไหนนั่ง ใครอไม่ยากเช่าโต๊ะเก้าอี้ก็เอาเสื่อกันไปเอง ผมถนัดเอาถุงปุ๊ยมากางใต้ต้นสนเวลาวันที่คนไม่เยอะนั่ง ไกล ๆ ผู้คนดีกว่าไม่งั้นรถเข้าออกจะนั่งจะนอนทีขยับที่เป็นว่าเล่น นั่งดูเขาเล่นน้ำ บันนาน่าโบ๊ท หรือจะลงไปเล่นเองก็ไม่มีใครว่าครับ แต่แนะนำเอาครีมกันแดดไปด้วยนะ เพราะเจอมาแล้วนอนอาบแดดริมทะเลเพลินไป โดยไม่ทาครีมกันแดดเจอดีเข้าจนได้ เพราะต้องตัวดำมากกว่าเดิม แต่ที่สำคัญกลางคืนนอนห่มผ้าไม่ได้เหมือนใครเอากระดาษาทรายมาขัดผิวแปล๊บ ๆ นอนไม่หลับไปทั้งคืน เนื่องจากผิวหนังถูกทำลาย พอได้ที่ก็ไปกันต่อครับ









กลางวันไม่กินข้าแล้วอิ่มเมื่อตอนกินอาหารทะเลนั่นแหละ ไปเที่ยวต่อที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งตั้งอยู่ในค่ายพระราม 6 ที่นี่มีเวลาปิดเปิดครับ ส่วใหญ่แล้วการมาเที่ยวที่นี่ต้องแต่งตัวให้สุภาพครับ เพราะเป็นเขตพระราชวัง นักท่องเที่ยวจะได้เดินชมตัวอาคาร รวมถึงบรรยากาศ วิวสวย ๆ ของริมทะเลฝั่งอ่าวไทย ที่นี่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 08.30. - 16.30 น. และจะมีการนำชมพระราชวังเป็นรอบ ๆ นะครับ









จากนั้นช่วงบ่ายแก่ ๆ เอาแบบว่าเจออากาศยามเช้า ลมทะเล ความร่มรื่นของพระราชวังแล้ว แต่วันนี้ยังไม่เจอแดดเลย ถ้ามาแบบผมต้องจัดหนักไปต่อกันเลยที่สวนสัตว์หัวหิน ซึ่งตั้งอยู่บ้านห้วยทรายใต้ หากมาจากทางชะอำก่อนเข้าอุโมงค์ไปหัวหินจะมีที่กลับรถ ให้กลับรถแล้ววิ่งผ่านปั๊มปตท.ประมาณ 200 เมตร จะมีทางแยกด้านซ้ายมือขับไปประมาณซัก 3-4 กิโลเมตร จะพบสวนสัตว์หัวหินอยู่ด้านซ้ายมือ ไปไม่ถูกดูตำแหน่งจีพีเอสได้ที่นี่ครับ คลิ๊กเลย ที่นี่เป็นสัตว์ที่นำมาเลี้ยงไว้ บางตัวก็เป็นของการจากการถูกลักลอบนำไปจำหน่าย เมื่อเข้าไปเที่ยวชมด้านในจะเห็นเองโดยหน้ากรงจะมีป้ายบอก ว่าเป็นสัตว์อะไร หรือเป็นสัตว์ที่เป็นของกลาง ส่วนด้านในมีสัตว์ป่าหลากหลาย อาทิ เก้ง กวาง ละอง ไก่ป่า นกยูง นกเงือก นาค ชะนี ลิง เต่า กระต่าย ประมาณเนี๊ยะลองไปดูนะ
 











ออกมาจากสวนสัตว์ก็ตกเย็น แดดร่มลมตกแล้ว แต่ผมยังไม่หยุดยังอยากจะไปให้ถึงหัวหินเลย เอาเป็นว่ามากับผมแล้วก็ไปต่อกันเลยนะ สำหรับผมหาอะไรกินริมทางก่อนแบบง่าย ๆ ถูก ๆไม่ไกลจากถนนคนเดินซักเท่าไร ข้าวราดแกงอาหารตามสั่งก็พอใจแล้ว จากนั้นก็ไปต่อกันเลยที่ถนนคนเดินหัวหินในค่ำคืนนี้
 




ที่จอดรถก็หาย๊าก ยาก กว่าจะหาได้ก็ไปเสียค่าจอดซะโดยดีอยู่ที่วัดหัวหิน จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ถนนคนเดินหัวหินกันเลย เอาเป็นว่าคุณมาหัวหินคุณไม่ต้องถามว่าตรงไหนถนนคนเดินหัวหินแค่ขับรถผ่านมาผมก็รู้แล้วว่าเป็นตรงนี้เพราะคนจะเยอะมากรถก็จะติด สังเกตได้ติดริมถนน จากนั้นผมก็ออกเดินทางเท้าตั้งแต่เริ่มจากทางเข้าไปถึงสุดทางเอาสรุปว่ามันมาก มันตรงไหน มันที่ได้เดินดูอย่างเดียวคนเยอะมาก จะกินอะไรก็ยืนรอลำบากคนเบียดเสียดไปมา จะไปหาของกินคนอื่นก็นั่งเต็มร้านค้า จะไปรอเห็นคนยืนอยู่หน้าร้านค้า ก็คิดว่ากูจะได้กินไหมเนี๊ยะ สุดท้ายก็ไม่ได้กินจริง ๆ แม่ค้ายุ่งจนจำเราไม่ได้ว่ามารอนานแล้ว สรุปก็แล้วกันถนนสำหรับคนเดินจริง ๆ สำหรับผมนะ แต่ก็อย่าไปอะไรมาก เดิน ไป มาทั้งคืนก็ไม่มีใครว่ารอคนซาก็ค่อยไปหาร้านอร่อย ๆ นั่งกินตอนหลังก็ได้
 
























ค่ำคืนนี้ไม่รู้จะนอนไหนเอาเป็นว่าทริปนี้ผมไม่ขอบอกว่าห้องพักที่ไหนดี เพราะห้องพักที่หัวหินมีเยอะมาก เยอะจริง ๆ ราคาแตกต่างกันออกไปอยู่ที่ว่าจะชอบไหม แต่ที่สำคัญถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ก็ควรจองที่พักล่วงหน้านะ ไม่งั้นเจอห้องพักราคาแพงแน่นอน สำหรับผมนอนรถดีกว่าคืนนี้ (ห้ามลอกเลียนแบบการนอนสำหรับคนมาเที่ยว เพราะผมด้านตั้งแต่ตัวยันหน้าแล้ว)

ทริปนี้ตื่นสาย ๆ ก็ดี เมื่อวานเหนื่อยแล้ว เที่ยวไม่ไกลหัวหิน เริ่มจากเที่ยวไปตามกระแสของตลาดเพลินวาน ดูซิมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง เพราะรู้สึกว่าที่นี่จะมีการเปลี่ยนแปลงของการปรับปรุงสถานที่ใหม่ ผมก็เดินดูไปหน่อยหนึ่งก็รู้สึกว่าเหมือนเดิมอะ เพราะมีร้านค้า ร้านของฝาก ร้านของกิน และก็ วิวถ่ายรูปเหมือนเดิมเช่นเคย แต่ก็สวยเก๋ดีนะเหมือนกับย้อนกลับไปเมื่อวันโน้นอีกครั้ง แต่ก็ต้องไปต่อแล้ว

 



















วันนี้กินข้าวเช้ากึ่งเที่ยง คิดไปมาจะกินอะไรดี ขอดีหน่อยเอาเป็นร้านอาหารนั่ง สบาย ๆ ดีกว่า แต่ไม่ได้ติดทะเลนะ อยู่ที่ครัวห้วยทรายแต่มีเมนูอาหารมากมาย อาหารตามสั่ง อาหารทะเล มี Wifire ด้วย ร้านหนี้อยู่ทางเข้าวัดห้วยทราย สามารถวิ่งตัดไปถนนเส้นเพชรเกษมเส้นหลักได้ เพื่อไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดห้วยมงคล
 











วัดห้วยมงคลเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเสียง เพราะมีองค์หลวงปู่ทวดองค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนที่ได้เดินทางมาที่วัดนี้ ด้านหน้ายังมีช้างไม้สามเศียร ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะรวมถึงการได้ลอดท้องช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายในวัดห้วยมงคลยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกมาก ลองเข้าไปเที่ยวชมสักการะสิ่งศักดิสิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
 



เตรียมตัวเดินทางกลับกันได้แล้ว แต่เพราะว่ายังมีสถานที่สุดท้ายของทริปนี้ที่น่าจะได้เดินทางไปเสียเวลามากหน่อย ก็อยู่ตรงข้ามกับสวิสชีพฟาร์ม ก็คือซานโตริพาร์คนี่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่แวะไปถ่ายรูป (ถ่ายแต่รูปจริง ๆ) เพราะว่าการเข้าไปเล่นก็ราคาค่อนข้างสูงสำหรับเครื่องเล่นแต่ละชั้น นาน ๆ ไปทีก็สามารถเล่นได้อาทิ บันจี้รีเวอร์ส เสียวสะท้านทั้งตัวและหัวใจ เอาเป็นว่าผมขึ้นไปคนเดียวหัวใจแทบลงมาอยู่ตามตุ่ม เสียค่าเล่นที่ก็ประมาณ 480 กว่าบาทมั๊ง แต่เดี๋ยวนี้มีเพิ่มเครื่องเล่นอีกมากลองไปเล่นดู ก่อนกลับขึ้นไปเก็บภาพวิวสวย ๆ บนชิงช้าสวรรค์ซานโตรินี่ก่อนที่จะล่ำลาทริปนี้กันไป อันนี้ถือว่าน้อยแล้ว จริง ผมไปมากกว่านี้อีกอะแต่เอาแบบเที่ยวหลวม ๆ เที่ยวสบาย ๆ ดีกว่าเนอะ เจอกันทริปหน้า