เกาะช้าง ดำน้ำดูปะการังที่เกาะหยวก เกาะเถาวัลย์ เที่ยวชมน้ำตกคลองพลู แหลมไชยเชษฐ์ 2 วัน 1 คืน เพียงท่านละ 2,950 บาท

ทริปสั้น ๆ กับวันว่าง ๆ เกิดขึ้นบ่อยกับพวกเรา ในวันที่ใครต่อหลายคนทำงานอยู่กับสำนักงาน แต่งานของพวกเราคือการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล ภาพถ่าย เพื่อใช้ประกอบการทำงานของพวกเรา ผมแอนนาขาลุย พร้อมกับสองหนุ่มหน้าเดิม ป้อมปี่กระบี่มือเดียว และต้นกล้า มาเดินทางด้วยกันในทริปนี้ พร้อมกับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานจากก๊าซ LPG เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ทริปนี้พวกเราออกจากซอยวัดเทียนดัด ตอนบ่าย 2 โมง มุ่งหน้าสู่ จ.กรุงเทพฯ โดยใช้มุ่งหน้าสู่ทางด่วนยมราช เพื่อที่จะไปบรรจบเส้นมอเตอร์เวย์ ทางหลวงหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ - ชลบุรี) เมื่อพบป้ายแยกซ้ายไป จันทบุรี บ้านบึง ให้ทำการเลี้ยวซ้าย ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 344 ไป อ.บ้านบึง ขับตรงไประยทางประมาณ 97.4 กิโลเมตร จะพบสามแยกแกลง ให้เลี้ยวซ้าย ไปตามเส้นทางหมายเลข 3 สุขุมวิท ขับไปประมาณ 64.2 กิโลเมตร จะถึงแยกไฟแดง พลับพลา ให้เลี้ยวขวา ไปตามเส้นทางหมายเลข 3 สุขุมวิท ขับตรงไป มุ่งหน้าสู่ อ.แหลมงอบ (อ.แหลมงอบ ห่างจากตัว จ.ตราด ประมาณ 16 กิโลเมตร) โดยการเดินทางครั้งนี้พวกเราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง เนื่องจากรถติด และไปถึงที่ท่าเรือแหลมงอบประมาณ 22.00 น. (4 ทุ่ม) ถึงซะที แต่เงียบมากผู้คนที่สัญจรไปมาแทบจะนับได้เลย พวกเรามองหาโรงแรมบริเวณท่าเรือแหลมงอบ เพื่อเป็นที่พักผ่อนสำหรับคืนนี้ ตาก็เหลือบไปมองเห็น โรงแรมแหลมงอบอินน์ จึงโทรเข้าไปสอบถาม โดยราคาห้องพัดลมห้องละ 300 บาท ห้องแอร์ห้องละ 450 บาท พวกเราจึงจองห้องพัดลม โดยนอนรวมกัน 3 คนนี่แหละ ประหยัดดี แต่ก่อนที่จะเข้าไปพัก พวกเรามองหาร้านอาหารในบริเวณนั้น เห็นมีอยู่ด้วยกันอยู่ 2 ร้าน เป็นร้านอาหารตามสั่ง จึงแวะเข้าไปหม่ำอาหารรอบดึกก่อนเข้าไปพักที่โรงแรมแแหลมงอบอินน์




รุ่งเช้าพวกเราตื่นกันตั้งแต่ตี 5 กะว่าต้องขึ้นเรือเที่ยวแรกตอน 07.00 น. ให้ทัน ที่ท่าเรือเกาะช้างเฟอรี่ พวกราเสีค่าตั๋วข้ามฟากไปกลับคนละ 120 ส่วนค่ารถไปกลับ 200 บาท คูปองจะแยกเป็น 2 ปึก ปึกขาไป 280 บาท ปึกขากลับ 280 บาท



พวกเรานำรถไปต่อคิวจากคันอื่น เมื่อถึงเวลารถก็ทยอยลงเรือจนเกือบเต็ม โดยเรือเฟอร์รี่ที่นี่จะออกประมาณทุกครึ่งชั่วโมง โดยระหว่างการเดินทางอยู่บนเรือ คลื่นค่อนข้างแรง เพราะฝนตกติดต่อกัน 3 วันแล้ว เพิ่งจะหยุดก็เมื่อคืนที่พวกเราเดินทางมาถึง พวกเราสังเกต จากการที่คลื่นกระทบหัวเรือเฟอร์รี่ จะกระเซ็นขึ้นมาสูง น้ำทะลักเข้ามาในเรือเลย ตอนแรกพวกเราอยู่ชั้นล่าง จนต้องวิ่งขึ้นหลบขึ้นมาชั้นบน (ชั้นล่างเป็นพื้นที่จอดรถ และมีห้องน้ำ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่สำหรับพักผู้โดยสาร มีร้านอาหารบริการด้านบน)






พวกเราใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากแผ่นดินใหญ่ ก็ข้ามฟากมาถึงเกาะช้าง เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากเกาะภูเก็ต มีเนื้อที่ประมาณ 429 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเขาสูงมีผาหินสลับซับซ้อนยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ เขาสลักเพชร มีความสูง 744 เมตร สภาพป่าโดยทั่วไปอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธาร ทำให้มีน้ำตกหลายแห่งบนเกาะ ชายหาด และปะการังที่สวยงามอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะ เกาะช้าง เดิมเป็นเกาะที่ไม่มีชุมชนตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย หากมีความสำคัญในฐานะที่เป็นท่าจอดเรือหลบลมมรสุม เป็นแหล่งเสบียงอาหาร และน้ำจืดโดยเฉพาะบริเวณอ่าวสลักเพชร หรืออ่าวสลัด เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่โจรสลัด ชาวจีนไหหลำ และญวน


พวเราออกเดินทางประมาณเกือบ 08.00 น. มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกของเกาะช้าง โดยมีจุดหมายแรกคือหาดทรายขาว โดยห่างจากท่าเรือประมาณ 5 กิโลเมตร หาดทรายขาว เป็นหาดที่มีระยะทางยาวมากอีกแห่งหนึ่ง สามารถลงเล่นน้ำได้ มีบังกะโลตั้งอยู่หลายแห่ง มีถนนรอบเกาะตัดชิดหาดมากที่สุด บริเวณถนนมีร้านอาหาร ร้านอินเตอร์เน็ต และที่พักในระดับต่าง ๆ อยู่มากมาย นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่พัก




เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ออกเดินทางไปแหลมไชยเชษฐ์ต่อ ซึ่งอยู่ห่างจากหาดทรายขาวประมาณ 2 กิโลเมตร แหลมไชยเชษฐ์ เป็นแหลมหิน ที่มีทัศนียภาพสวยงาม แต่ไม่สามารถเล่นน้ำได้ เนื่องจากเป็นโขดหินส่วนใหญ่และมีคลื่นแรง แต่บรรยากาศพระอาทิตย์ตกน้ำที่แหลมไชยเชษฐ์สวยงามยิ่งนัก เหมาะแก่การพักผ่อน พวกเราแวะถ่ายภาพที่แหลมไชยเชษฐ์ และที่พักที่ไชยเชษฐ์รีสอร์ท ก่อนเดินทางไปหาดไก่แบ้ต่อ










การเดินทางมาหาดไก่แบ้ ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางขึ้นเขา สองข้างทางจะเป็นต้นไม้ปกคลุม จากบริเวณทางเข้าแหลมไชยเชษฐ์ประมาณ 8 กิโลเมตร หาดไก่แบ้
เป็นหาดที่สั้นและเล็กกว่าหาดคลองพร้าว เป็นหาดทรายที่มีความลาดพอสมควรสามารถเล่นน้ำได้โดยไม่เป็นอันตราย ชายหาดมีลักษณะลาดลงทะเลทีละน้อย แต่ก็เงียบสงบกว่า หาดสามารถเล่นน้ำได้ นักท่องเที่ยวนิยมมาอาบแดด เกาะที่เห็นคือ เกาะจระเข้วางตัวเหนือท้องน้ำสีคราม นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคไปได้
หาดไก่แบ้นี้ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ความคึกคักของหาดไก่แบ้ นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวอาบแดดแล้ว หากต้องการไปดำน้ำที่เกาะใกล้เคียงเช่น เกาะหยวก เกาะมันนอก เกาะมันใน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหาดไก่แบ้นัก สามารถซื้อแพคเกจทัวร์ได้จากรีสอร์ทที่นักท่องเที่ยวไปพัก พวกเราแวะเข้าไปถ่ายภาพชายหาดไก่แบ้ และถ่ายภาพที่พักสวย ๆ ของสยามเบย์ รีสอร์ท จากนั้นก็หันหัวรถกลับ และแวะทานอาหารตามสั่งบริเวณริมถนนคลองพร้าว ซึ่งราคาอาหารประมาณจานละ 30 บาท มีข้าวกับอาหาร 2 อย่าง ราคานี้กำลังพอเหมาะครับ









หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกลับ พวกเราถึงท่าเรือเกาะช้างเฟอร์รี่ประมาณตอนบ่ายโมง จากนั้นก็ขึ้นเรือ โดยมีเจ้าหน้าที่ทำการเก็บตั๋วเรือก่อนพวกเราจะขึ้นเรือ พวกเราถึงฝั่งเกือบบ่ายสองโมง ก็เตรียมตัวเดินทางกลับ ขากลับแวะดื่มกาแฟเย็น บริเวณที่ท่าจอดรถ จ.ตราด ซึ่งหากเดินทางขาเข้า จ.ตราด จุดนี้จะเป็นศูนย์บริการการท่องเที่ยวของ จ.ตราด อยู่ทางด้านซ้ายมือ และจุดนี้จะเป็นจุดบริการห้องน้ำที่สะอาดบริเวณริมถนนอีกด้วย แต่หากเดินทางในช่วงขากลับ ฝั่งขาออกจาก จ.ตราด จะสังเกตุเห็นอาคารรูปเรือเป็นจุดจำหน่ายสินค้าโอท็อป และของที่ระลึกในช่วงขากลับอีกด้วย







พวกเราโด๊ปกาแฟเพื่อไม่ให้ง่วงนอนแล้ว จากนั้นก็เบิ่งรถกลับถึงที่พักตอนประมาณ 20.00 น. โดยสวัสดิภาพ หมดค่าเชื้อเพลิงประมาณ 1,200 บาท ค่าที่พักแหลมงอบอินน์ 300 บาท ค่าเรือทั้งหมด 560 บาท ค่าอาหาร โดยเฉลี่ยรวมกันประมาณ 500 บาท สำหรับทริปสั้น ๆ ทริปนี้ พอจะเป็นไกด์ให้กับผู้ที่สนใจได้ทราบรายละเอียด และค่าใช้จ่ายในการเดินทางเหมือนกับพวกเรา ไว้รอการเดินทางครั้งใหม่ในทริปหน้า แล้วเจอกันใหม่ ทีมงาน annaontour.com
เรื่องเล่าการเดินทาง จาก Mr.anna ขาลุย